แสงไฟสำหรับร้านค้าปลีก สามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ แบบทั่วไป/สร้างบรรยากาศ, ไฟทำงาน, ไฟส่องสว่างแบบเน้น และไฟตกแต่ง ต้องทำให้แน่ใจว่า ลูกค้าของคุณจะสามารถทราบจุดประสงค์ในการใช้ไฟแต่ละประเภท ที่สาดส่องอยู่ในร้าน รวมถึงที่สินค้าของคุณ นี่คือเคล็ดลับง่ายๆ ที่คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเลือกไฟประเภทต่างๆ มาใช้งานกับร้านค้าของคุณ :
1. ใช้ไฟ LED แบบแผง
เทคโนโลยียังคงอยู่ภายใต้การพัฒนา รวมถึงหลอดไฟยังไม่ให้โทนสีและอุณหภูมิของสีที่มากพอ ดังนั้นการซื้อไฟแบบเป็นแผงจำนวนมาก จะช่วยให้ได้แสงไฟที่สว่างมากขึ้น
2. อย่าเผาลูกค้าของคุณ
มันสำคัญมากเลยทีเดียว ที่คุณจะต้องคำนึงถึงเรื่องความร้อนที่มาจากหลอดไฟ ควรจะมีอุณหภูมิที่เหมาะสม และไม่ทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่สบายตัว หรือปลีกตัวออกจากสินค้า โดยเฉพาะเมื่อสินค้าของคุณยังไม่ค่อยได้รับความนิยมสักเท่าไร หลอดไส้จะให้ความร้อนมากที่สุด หลอด LED จะเย็นที่สุด ส่วนหลอดฟลูออเรสเซนต์ จะอยู่กลางๆ
3. อย่าลืมคำนึงถึงอุณหภูมิของสี และดัชนีเฉดสี (Colour Rating Index: CRI)
หลอดไฟแต่ละประเภท จะให้โทนสีที่เป็นธรรมชาติตามแหล่งกำเนิดแสงของตัวเอง หากเราต้องการโทนสีที่อุ่น และสบายตา ควรใช้หลอดไฟที่มีอัตราอุณหภูมิอยู่ที่ 2700-3200 K (เคลวิน) หากต้องการแสงไฟที่สามารถให้สีตามที่เห็นจริง และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ควรใช้หลอดไฟที่มีอัตราอุณหภูมิอยู่ที่ 4000-4500 Kหากต้องการสีที่สว่างๆ ควรใช้หลอดไฟที่มีอุณหภูมิ 5500-6000 K ดัชนีเฉดสี (CRI) เป็นวิธีพื้นฐานที่ใช้ในการประเมินแสงที่ให้คุณภาพของสี ถ้าดัชนีสูง หลอดไฟจะให้แสงที่ส่องลงไปนั้น มีสีที่แท้จริงมากขึ้น
4. ปัจจัยทางด้านราคา ในการถอดเปลี่ยนและพลังงาน
ราคาหน้าร้าน เป็นปัจจัยหนึ่งที่ใช้ในการพิจารณา แต่มันไม่ใช่ปัจจัยทางด้านราคาเพียงหนึ่งเดียวที่ใช้ในการพิจารณา ยังรวมถึงค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงาน (ราคาของการใช้พลังงานต่อปี) รวมถึงราคาในการถอดเปลี่ยนอุปกรณ์ ซึ่งจะช่วยให้คุณประเมินค่าใช้จ่ายของคุณต่อปีด้วย
5. ใช้กระจกสะท้อน เพื่อช่วยเพิ่มความสว่างให้แก่ร้านค้าของคุณ
แม้มันจะไม่ใช่แสงไฟที่ออกมาจากหลอดไฟอย่างแท้จริง กระจกเป็นวิธีที่ถูกและดีในการสะท้อนแสง และเพิ่มความสว่างให้กับร้านค้า และจะดียิ่งขึ้นถ้ากระจกของคุณช่วยตกแต่งร้านของคุณได้ด้วย ซึ่งมักพบในร้านค้าชั้นนำ รวมถึงในกรณีที่ถ้าร้านค้าของคุณมีจุดให้แสงไฟเพียงไม่กี่จุด กระจกจะเป็นทางเลือกที่ถูกในการเพิ่มปริมาณแสงไฟในห้อง
6. ใช้สวิตช์แบบหรี่ไฟได้
การใช้สวิตช์แบบหรี่ไฟได้ จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมระดับความเข้มของแสงไฟภายในร้าน ซึ่งช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟได้อีกมากโข อีกทั้งยังสามารถควบคุมบรรยากาศภายในร้าน ซึ่งสวิตช์ไฟที่สามารถหรี่ได้นี้ จะสำคัญอย่างยิ่งในร้านค้ามีระดับ ที่ต้องใช้แสงไฟที่มีความสว่างน้อย แต่เพิ่มความรู้สึกหรูหราได้มาก
7. อย่าลืมใช้ไฟแบบเน้นและไฟสำหรับทำงานด้วย
ธุรกิจขนาดเล็กบางเจ้า อาจมีการลงทุนกับการให้แสงไฟ กับสินค้าของพวกเขา เพื่อเพิ่มความน่าสนใจในตัวสินค้า หากคุณต้องการลงทุน คุณอาจจะลงทุนกับเรื่องไฟตกแต่งและไฟแบบทั่วไป แต่รู้หรือไม่ว่า ไฟแบบเน้นและไฟสำหรับทำงาน ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน นั่นเป็นเพราะว่ามันจะช่วยเพิ่มแสงสีให้กับสินค้าจองคุณ และเป็นจุดที่ “มีการทำงาน” หรือเป็นจุดสนใจของผู้ชมสินค้าในร้านขายของ โดยปกติแล้ว หลอดฟลูออเรสเซนต์จะมีความคุ้มค่า และมีประสิทธิ