ในการที่จะเลือกแสงไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณต้องมีแปลนอาคารวางไว้ตรงหน้าคุณเพื่อนที่คุณสามารถมีไอเดียว่าจะจัดวางแสงยังไงให้ได้ดี จัดการแสงโดยรวมลำดับสุดท้ายอาจจะฟังดูเป็นมาตรฐานที่จะจัดแต่งแสงโดยรวมเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตามหากคุณใส่แสงในที่ที่จำเพาะก่อน คุณจะรู้ในภายหลังว่าพื้นที่ส่วนไหนยังต้องการการใส่แสงเพิ่มอีก

1. แสงไฟตกแต่ง      
สิ่งสำคัญในการเลือกแสงไฟตกแต่งคือการสร้างบรรยากาศภายในร้าน มันอาจจะไม่จำเป็นหากร้านของคุณขายเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออาหารสดเป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามถ้าร้านของคุณขายช่อดอกไม้ เครื่องเพชร หรือเฟอร์นิเจอร์แล้ว การมีแสงไฟตกแต่งจะช่วยเพิ่มอารมณ์ในการซื้อแก่ลูกค้าของคุณ     แสงไฟตกแต่งบอกลูกค้าของคุณว่า ร้านนี้หรูหราและสง่างาม หากร้านของคุณมีขนาดเล็ก ไฟตกแต่งของคุณสามารถใช้เป็นแสงโดยรวมเลยก็ได้

‍2. ดวงโคมเน้นวัตถุ    
การเลือกดวงโคมเน้นวัตถุจะสามารถช่วยทำให้สินค้าของคุณเด่นขึ้นมาก นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงต้องใช้แปลนอาคาร

‍3. ดวงโคมกิจกรรม    
ดวงโคมกิจกรรมใช้เพื่อช่วยให้พื้นที่ทำงานของคุณมีแสงสว่างเพียงพออย่างเช่น บริเวณทางเข้า แคชเชีย หรือป้ายหน้าร้าน มันสามารถเป็นไฟแบบไหนก็ได้ที่คุณต้องการ ดวงโคมกิจกรรมมักมีแสงที่สว่างกว่าดวงโคมเน้นวัตถุ เพื่อให้คุณได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ  

‍4. แสงโดยรวม      
หลังจากที่คุณได้เลือกแสงข้างต้นแล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณมาตรวจเช็คแสงโดยรวมว่าขาดเหลือส่วนไหนหรือไม่ คุณต้องตัดสินใจว่าบริเวณไหนที่ยังต้องการแสงไฟเพิ่มอีก กฎง่ายๆคือ หากคุณมีพื้นที่ระหว่างดวงไฟห่างกันเกิน 6 ฟุต การใส่แสงไฟเพิ่มเป็นความคิดที่ดีหากไฟที่คุณเลือกใช่เป็นไฟดวงเล็ก แต่ถ้าหากคุณใช้แผงไฟ อาจจะไม่ต้องทำตามกฎข้อนี้ก็ได้  

‍ข้อแนะนำในการติดตั้งแสงไฟเพิ่มเติม      
‍
- ใช้โคมไฟเสริม / แท่นรางไฟในร้านหรู ร้านแฟชั่น    
- ใช้โคมไฟระย้าที่ร้านขายของชำ ร้านสะดวกซื้อหรืออฟฟิศ

ในบางกรณี การเลือกแบบหลอดไฟก่อนเพื่อนที่จะสามารถรู้ว่าแสงจะสว่างมากน้อยเพียงใด วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีหากคุณต้องการประหยัดค่าโคมไฟ ถ้าร้านของคุณไม่ใช่ร้านหรูหรา หลอดไส้หรือหลอดนีออนก็เพียงพอแล้ว    

แหล่งที่มา: https://fitsmallbusiness.com/retail-store-lighting